บาสเกตบอล
กติกาของ NCAA Men’s Basketball Tournament (March Madness) ได้รับการจัดทำอย่างละเอียดเพื่อให้การแข่งขันเป็นอย่างเต็มประสิทธิภาพและสามารถควบคุมได้ดี นี่คือกติกาหลักของการแข่งขัน NCAA Men’s Basketball Tournament:
- ระบบการแข่งขัน: การแข่งขันจะใช้ระบบแบร็กเก็ต (Bracket System) โดยทีมบาสเกตบอล 68 ทีมที่มีสิทธิ์เข้าร่วมจะถูกจับคู่ในรอบดีวิชั่น 1 (First Four) และทีมที่ชนะในรอบนี้จะเข้าร่วมการแข่งขันในรอบดีวิชั่น 2 (First Round).
- การชนะและการตกลง: การแข่งขันใช้ระบบแพ้คู่ตามการชนะและการตกลง (Single-Elimination) หากทีมแพ้ในรอบใด ๆ จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน.
- เวลาการแข่งขัน: ทุกเกมมีเวลาการแข่งขันรวม 40 นาที แบ่งเป็นสองครึ่ง (half) โดยมีพักเวลา 15 นาที ระหว่างครึ่งกลางและครึ่งหลัง.
- การพิจารณา: มีการใช้เทคโนโลยี VAR (Video Assistant Referee) เพื่อช่วยในการตัดสินใจในกรณีที่มีการโต้แย้งหรือสถานการณ์ที่ไม่แน่ชัด.
- การทายผล: นอกจากการแข่งขันเองแล้ว, March Madness เป็นเวทีที่นักกีฬาและแฟนหลายคนจะทายผลและทำแบร็กเก็ตส่วนตัว โดยทายว่าทีมไหนจะชนะในแต่ละรอบ การทายผลนี้เป็นที่นิยมและมีการแข่งขันในเรื่องของแบร็กเก็ตที่ดีที่สุด.
- การคัดเลือกและการจัดทีม: ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันต้องมีผลการแข่งขันที่ดีในฤดูกาลปกติของมหาวิทยาลัย และผ่านการคัดเลือกของ NCAA สำหรับการเสาะหา.
- การเสาะหาและการจับคู่: การเสาะหาและการจับคู่ทีมในแบร็กเก็ตจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการแข่งขัน NCAA ซึ่งจะพิจารณาคุณสมบัติของทีมและผลการแข่งขันในฤดูกาลปกติ.
- ระดับฤดูกาล: NCAA Men’s Basketball Tournament เป็นการปิดฤดูกาลของบาสเกตบอลมหาวิทยาลัย ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงเดือนมีนาคมและสิ้นสุดในเดือนเมษายน.
การแข่งขันใน NCAA Men’s Basketball Tournament เป็นเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความระทมและความสนุกสนาน และเกตบอลภาคนี้สร้างโอกาสให้ทีมบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยและนักกีฬาเร้าใจแข่งขันและแสดงความสามารถของตนอย่างสูงสุด.
สรุป
การแข่งขันใน NCAA Men’s Basketball Tournament เป็นเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความระทมและความสนุกสนาน และเกตบอลภาคนี้สร้างโอกาสให้ทีมบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยและนักกีฬาเร้าใจแข่งขันและแสดงความสามารถของตนอย่างสูงสุด.